เมื่อคุณต้องนำเอกสารไปใช้ในประเทศที่ใช้ภาษาอาหรับ (Arabic-speaking countries) ไม่ว่าจะเป็น Saudi Arabia, United Arab Emirates, Qatar หรือประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาหรับ จำเป็นต้องเข้าใจทั้งข้อกำหนดด้านการแปลเอกสาร รับรองลายมือชื่อ (Notary) และการทำให้เอกสารเป็นที่ยอมรับทางกฎหมาย (Legalisation / Apostille) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่หน่วยงานปลายทางปฏิเสธเอกสาร

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย ทีมงาน Translingo ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลและรับรองเอกสารมากกว่า 196 ภาษา เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลล่าสุด, ถูกต้อง และเข้าใจได้ง่าย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสให้คุณดำเนินธุรกรรมได้อย่างราบรื่น

บริการแปลและรับรองเอกสารไทยเป็นอาหรับเพื่อใช้ในประเทศอาหรับ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดย Translingo ครอบคลุมการแปล การรับรองที่กรมการกงสุล และสถานทูต

ประเทศอาหรับส่วนใหญ่กำหนดให้เอกสารราชการหรือเอกสารสำคัญที่ออกโดยหน่วยงานต่างประเทศ ต้องผ่านกระบวนการรับรองเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความชอบด้วยกฎหมาย (Legalisation/Notarisation) ก่อนนำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร (เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรส), วีซ่า, การศึกษา, และการทำธุรกิจ

ภาษาที่ใช้ในการแปล

แม้ว่าบางหน่วยงานจะยอมรับเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่สำหรับประเทศอาหรับส่วนใหญ่ การแปลเป็นภาษาอาหรับ (Arabic) เป็นข้อกำหนดพื้นฐาน เนื่องจากเป็นภาษาราชการ การแปลต้องดำเนินการโดยนักแปลที่ได้รับการรับรองและต้องผ่านขั้นตอนการรับรองคำแปลที่หน่วยงานรัฐบาลไทยและสถานทูตของประเทศปลายทางยอมรับ

เอกสารประเภทที่มักต้องผ่านการรับรอง

กระบวนการรับรองเอกสารเพื่อนำไปใช้ในประเทศอาหรับโดยทั่วไปมี 3-4 ขั้นตอนหลัก ซึ่งต้องดำเนินการตามลำดับอย่างเคร่งครัด

เอกสารราชการไทย: เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการไทย (เช่น อำเภอ/เขต, กรมการกงสุล, กระทรวงศึกษาธิการ) สามารถนำไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ทันที

เอกสารเอกชน: เอกสารที่ออกโดยภาคเอกชน (เช่น ใบรับรองจากบริษัท, ใบรับรองแพทย์) มักจะต้องผ่านการรับรองจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หรือบางกรณีอาจต้องผ่านการรับรองจาก ทนายความผู้ทำคำรับรอง (Notary Public Lawyer) ในประเทศไทย ก่อนนำไปยื่นที่กรมการกงสุล

การแปล: เอกสารต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอาหรับอย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยต้องระมัดระวังเรื่องการสะกดชื่อ-นามสกุล และตัวเลขให้ตรงกับเอกสารสำคัญอื่น ๆ (เช่น หนังสือเดินทาง)

การรับรองคำแปล: คำแปลที่ได้ต้องได้รับการรับรองจาก นักแปลที่ขึ้นทะเบียน และ/หรือบริษัทแปลที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งบางประเทศอาจกำหนดให้นักแปลต้องมาให้คำรับรองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของกรมการกงสุลด้วย

ขั้นตอนนี้เป็นการรับรองลายมือชื่อและตราประทับของเจ้าหน้าที่ไทยที่รับผิดชอบเอกสารนั้น ๆ โดยเป็นการยืนยันว่าเอกสารและคำแปลดังกล่าวเป็นของจริงที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาลไทย

ผู้ยื่นต้องนำเอกสารต้นฉบับภาษาไทย และคำแปลภาษาอาหรับที่ผ่านการรับรองคำแปล ไปยื่นต่อ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ข้อควรทราบ: ปัจจุบัน บางสถานทูตในกลุ่มอาหรับอาจกำหนดให้อายุของเอกสารที่ผ่านการรับรองจาก กต. ต้องไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับการรับรอง

นี่คือขั้นตอนสุดท้ายและสำคัญที่สุด โดยผู้ยื่นจะต้องนำเอกสารที่ผ่านการรับรองจากกรมการกงสุล ไปยื่นต่อ สถานเอกอัครราชทูต หรือ สถานกงสุลใหญ่ ของประเทศอาหรับที่เอกสารนั้นจะนำไปใช้

เอกสารที่ต้องเตรียม: มักจะประกอบด้วย แบบฟอร์มคำร้อง, หนังสือเดินทาง (พร้อมสำเนา), เอกสารต้นฉบับภาษาไทย, คำแปลภาษาอาหรับที่ผ่านการรับรองจาก กต., และเอกสารประกอบอื่น ๆ ตามข้อกำหนดของแต่ละสถานทูต

ค่าธรรมเนียมและระยะเวลา: ค่าธรรมเนียมและระยะเวลาดำเนินการจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานทูต เช่น สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ มักจะใช้เวลาประมาณ 2-14 วันทำการ และมีค่าธรรมเนียมต่อตราประทับที่กำหนด

แม้ว่าขั้นตอนหลักจะคล้ายกัน แต่ประเทศอาหรับบางประเทศอาจมีข้อกำหนดเฉพาะที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): หลังจากการรับรองจากสถานทูต UAE ในไทยแล้ว เอกสารอาจต้องผ่านการรับรองเพิ่มเติมจาก กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของ UAE (Ministry of Foreign Affairs and International Cooperation – MoFAIC) ที่ดูไบหรือเมืองอื่น ๆ ก่อนนำไปใช้

ซาอุดีอาระเบีย (KSA): เอกสารมักต้องแปลเป็นภาษาอาหรับอย่างเคร่งครัด และหลังการรับรองจากสถานทูตซาอุดีอาระเบียในไทยแล้ว อาจต้องนำไปรับรองต่อที่กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) — การแปลและรับรองภาษาไทย ↔ อาหรับ เพื่อนำไปใช้ที่ประเทศที่ใช้ภาษาอาหรับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการใช้เอกสารในประเทศอาหรับ

1) เอกสารที่รับรองแล้วมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?

โดยทั่วไปแล้ว เอกสารราชการที่รับรองโดยกรมการกงสุล (กต.) มักมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ได้รับการรับรอง และต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นที่สถานทูตประเทศปลายทางภายในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม เอกสารบางประเภท เช่น ใบรับรองโสด (Affidavit of Single Status) มักจะถูกกำหนดให้อายุไม่เกิน 3-6 เดือน นับจากวันที่ออกโดยอำเภอ/เขต

2) หากเอกสารต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว จำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอาหรับอีกหรือไม่?

ควรแปล หากเป็นเอกสารราชการที่สำคัญ เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรสที่ออกโดยหน่วยงานต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอาหรับ และนำมายื่นที่สถานทูตอาหรับในประเทศไทย สถานทูตส่วนใหญ่มักต้องการให้แปลเป็นภาษาอาหรับและผ่านกระบวนการรับรองนิติกรณ์ตามปกติ

3) เอกสารส่วนตัวที่ไม่ได้ออกโดยราชการ เช่น ใบรับรองเงินเดือน ต้องทำอย่างไร?

เอกสารที่ออกโดยภาคเอกชน (Private Documents) เช่น ใบรับรองเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน หรือใบรับรองแพทย์ มักจะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เช่น หอการค้าไทย (สำหรับเอกสารการค้า) หรือการรับรองลายมือชื่อจาก ทนายความผู้ทำคำรับรอง (Notary Public Lawyer) ก่อนนำไปยื่นที่กรมการกงสุลในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของหน่วยงานปลายทางด้วย

4) สามารถนำเอกสารไปยื่นรับรองที่สถานทูตประเทศอาหรับได้เลยหรือไม่ โดยไม่ผ่านกรมการกงสุลไทย?

ไม่ได้ ขั้นตอนการรับรองเอกสารส่วนใหญ่ที่ใช้ในประเทศอาหรับจะกำหนดให้เอกสารนั้น ต้องผ่านการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของไทยก่อน เพื่อเป็นการรับรองความถูกต้องของตราประทับและลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ไทยในเอกสารต้นฉบับหรือคำแปล จากนั้นสถานทูตประเทศปลายทางจึงจะดำเนินการรับรองขั้นตอนสุดท้าย

5) หากต้องการนำเอกสารไปใช้ที่ UAE ต้องรับรองเอกสารที่ MoFAIC UAE ด้วยหรือไม่?

ใช่ โดยทั่วไปแล้วสำหรับ UAE (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) การรับรองเอกสารจะประกอบด้วย 3 ระดับ คือ:
รับรองโดย กรมการกงสุล (กต.) ในประเทศไทย
รับรองโดย สถานทูต UAE ในประเทศไทย
รับรองโดย กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของ UAE (MoFAIC) ใน UAE อีกครั้ง ก่อนนำไปใช้งานจริง

6) ฉันสามารถมอบอำนาจให้บริษัทแปลดำเนินการรับรองเอกสารแทนได้หรือไม่?

ได้ บริษัทแปลที่มีความเชี่ยวชาญด้านนิติกรณ์อย่าง Translingo มีบริการดำเนินการรับรองเอกสารแบบครบวงจร (One-Stop Service) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางไปยื่นเอกสารที่หลายหน่วยงานด้วยตัวเอง คุณเพียงเตรียมเอกสารต้นฉบับมาให้เราดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ ควรตรวจสอบข้อกำหนดจากสถานทูตประเทศปลายทางก่อนว่าสามารถมอบอำนาจได้หรือไม่ เพราะนโยบายสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

7) ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการดำเนินการรับรองเอกสารทั้งหมด?

โดยรวมแล้ว กระบวนการทั้งหมด (แปล + กต. + สถานทูต) มักใช้เวลาประมาณ 14 – 30 วันทำการ ขึ้นอยู่กับปริมาณงานของกรมการกงสุลไทยและสถานทูตประเทศปลายทาง รวมถึงความรวดเร็วในการจัดเตรียมเอกสารของตัวผู้ยื่นเอง ควรเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์ก่อนการเดินทางหรือการนำไปใช้.

โทรศัพท์: 094-8958999

Line ID: @TRAN (มี@)

อีเมล: translingo@ilc.ltd

เว็บไซต์: www.translingo.ltd

Walk-in: ติดต่อที่สำนักงานใหญ่ หรือสาขาใกล้บ้านคุณ (กรุงเทพ, ขอนแก่น, อุดรธานี, ภูเก็ต และอีกกว่า 29 สาขาทั่วประเทศ)