แปลและรับรองเอกสารไปจีน
คู่มือฉบับสมบูรณ์ อัปเดต 2568 ครบทุกขั้นตอน
คุณกำลังวางแผนไปเรียนต่อ ทำงาน จดทะเบียนสมรส หรือขยายธุรกิจที่ประเทศจีนใช่ไหมครับ? หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญและมักสร้างความสับสนมากที่สุด คือการเตรียมเอกสารให้ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับตามกฎหมายของจีน การนำเอกสารราชการไทยไปใช้ที่ประเทศจีนโดยตรงนั้นไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนทั้งการ “แปล” และ “การรับรองเอกสาร” ซึ่งมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ที่ Translingo เราเข้าใจความกังวลนี้ดี บทความนี้จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็น “คู่มือฉบับสมบูรณ์ที่สุด” สำหรับคุณ อัปเดตข้อมูลล่าสุดปี 2568 เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกขั้นตอนอย่างละเอียด จนคุณสามารถเตรียมเอกสารได้อย่างมั่นใจ หรือหากคุณต้องการผู้ช่วยมืออาชีพ… เราก็พร้อมให้บริการครบวงจรในที่เดียว!
ทำไมการ “แปล” อย่างเดียวไม่พอ?
หลายท่านอาจเข้าใจว่าเพียงแค่แปลเอกสารราชการไทยเป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษก็น่าจะเพียงพอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับทางการจีน การแปลเป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “การรับรองเอกสาร” (Legalization) ซึ่งคือกระบวนการยืนยันความถูกต้องของเอกสารและลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เอกสารที่ออกในประเทศไทย สามารถนำไปใช้อ้างอิงทางกฎหมายในประเทศจีนได้อย่างสมบูรณ์ เปรียบเสมือนการสร้าง “โซ่แห่งความไว้วางใจ” (Chain of Trust) ที่ทำให้ทางการจีนมั่นใจได้ว่าเอกสารของคุณไม่ใช่เอกสารปลอมและออกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เอกสารประเภทไหนบ้างที่ต้องแปลและรับรอง?
เอกสารส่วนบุคคล (Personal Documents)
- ใบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชน
- ใบสำคัญการสมรส, ใบสำคัญการหย่า, ใบรับรองโสด
- ใบมรณบัตร, ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล
- หนังสือรับรองความประพฤติ
เอกสารการศึกษา (Educational Documents)
- ใบแสดงผลการศึกษา (Transcript)
- ใบปริญญาบัตร / ประกาศนียบัตร (Degree/Diploma)
เอกสารทางธุรกิจและการค้า (Business & Commercial Documents)
- หนังสือรับรองบริษัท, หนังสือบริคณห์สนธิ
- ใบทะเบียนการค้า, ภ.พ.20
- หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney)
เปิดแผนที่สู่ความสำเร็จ: 4 ขั้นตอนหลัก (อัปเดต 2568)
ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมเอกสารต้นฉบับ (The Foundation)
จุดเริ่มต้นที่ห้ามพลาด! ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกตัวอักษร เอกสารต้องสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด และเป็นต้นฉบับหรือสำเนาที่รับรองโดยหน่วยงานผู้ออกเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 2: การแปลเอกสารสู่สากล (The Translation)
แปลเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนโดยนักแปลมืออาชีพเท่านั้น รูปแบบต้องตรงตามต้นฉบับ พร้อมประทับตรารับรองคำแปล (Certified Correct Translation) จากบริษัทที่เชื่อถือได้
ขั้นตอนที่ 3: รับรองที่กรมการกงสุล (Thai MFA Legalization)
นำเอกสารต้นฉบับและฉบับแปลไปยื่นรับรองที่ กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อรับรองลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ของไทย
ขั้นตอนที่ 4: ยื่นรับรองที่ศูนย์ฯ วีซ่าจีน (Chinese Embassy Legalization)
สำคัญมาก! ต้องยื่นเอกสารที่ผ่านการรับรองจากกงสุลไทยแล้วที่ ศูนย์บริการยื่นขอวีซ่าประเทศจีน (CVASC) ไม่ใช่ที่สถานทูตโดยตรง เพื่อให้สถานทูตจีนรับรองเป็นขั้นตอนสุดท้าย
สถานที่และข้อมูลสำคัญ
กรมการกงสุล:
123 ถ.แจ้งวัฒนะ, แขวงทุ่งสองห้อง, เขตหลักสี่, กรุงเทพฯ
ศูนย์ฯ วีซ่าจีน (CVASC):
อาคารธนภูมิ ชั้น 5, ถ.เพชรบุรีตัดใหม่, กรุงเทพฯ
ค่าธรรมเนียมและระยะเวลา
กงสุลไทย: เริ่มต้น 200 บาท (ปกติ) / 400 บาท (ด่วน)
สถานทูตจีน: เริ่มต้นประมาณ 850 บาท (บุคคล) / 1,700 บาท (ธุรกิจ)
ทำไมต้องเลือก Translingo?
เพราะเราไม่ใช่แค่บริษัทแปล แต่เราคือ “ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองเอกสาร” ที่พร้อมมอบบริการครบวงจร (One-Stop Service) ที่จะเปลี่ยนเรื่องยุ่งยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
- ✅ ครบวงจรในที่เดียว: เราจัดการให้ทุกขั้นตอน
- ✅ เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: รู้จริงทุกกฎเกณฑ์ ไม่พลาดทุกรายละเอียด
- ✅ รับประกันความถูกต้อง: งานมีปัญหาจากการแปล เราแก้ไขให้ฟรี
- ✅ รวดเร็ว โปร่งใส: ตรงเวลา พร้อมอัปเดตสถานะให้ทราบเสมอ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
อย่าให้เรื่องเอกสารมาเป็นอุปสรรคของคุณ!
ให้ความยุ่งยากของการเตรียมเอกสาร เป็นหน้าที่ของมืออาชีพอย่างเรา ติดต่อ Translingo วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาฟรี!
